说到如何提升个人魅力,首先想到的是不是……去整个容?当然不是,因为我们大多数人都没有 (nà) 必 (me) 要 (duō) 去 (qián) 整容,所以今天泰语君为大家推荐一个实用小妙招,叫作“吸引力法则”,巧妙运用这个法则,可以提升你的个人魅力哦~ 我们先来听一首歌吧,名字叫做《魅力女孩》▲ "กฎแรงดึงดูด" (Law of Attraction) เป็นแนวคิดที่ถูกพูดถึงมาอย่างยาวนาน บ้างก็เรียกกฎนี้ว่า "กฎจักรวาล" ซึ่งหากนำมาปรับใช้อย่างสร้างสรรค์ เพื่อสร้างพลังความคิดเชิงบวก ก็จะช่วยดึงดูดความสำเร็จในด้านต่าง ๆ มาสู่ชีวิตได้ ไม่ว่าจะเป็นการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ เราจะพาไปทำความรู้จักกฎแห่งแรงดึงดูดผ่านบทความนี้
(图源 IG:wawwa_nc) 什么是“吸引力法则”? กฎแรงดึงดูด คือ แนวคิดที่เชื่อว่าจิตของมนุษย์มีพลังอำนาจมากพอ ที่จะดึงดูดทั้งสิ่งดีและไม่ดีเข้ากับในชีวิตผ่านเหตุการณ์และสถานการณ์ต่างๆ หากเรามีความคิดบวกก็จะดึงดูดแต่เรื่องดีๆ
แต่หากมีความคิดลบก็สามารถดึงดูดเรื่องแย่ๆ ได้เช่นกัน พูดง่ายๆ ก็คือ "เราจะดึงดูดสิ่งที่เราคิด เข้ามาในชีวิตเสมอ" เมื่อเราคิดบวก จิตของเราจะคัดสรรว่าต้องการให้อะไรเข้ามาในชีวิตบ้าง สมองจะถูกกระตุ้นโดยความคิด โน้มน้าวจิตสำนึกสร้างแรงผลักดันให้เราบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ กฎนี้จึงถูกเรียกว่า "กฎแรงดึงดูด" เปรียบเสมือนแม่เหล็กที่คอยดึงดูดสิ่งดีๆ ที่เราคิด
และต้องการให้เข้ามาในชีวิตนั่นเอง
ขณะที่คำว่า Universe (จักรวาล) ก็เป็นคำที่มักถูกนำมาใช้ควบคู่กับกฎแห่งแรงดึงดูด โดยทฤษฎีนี้เชื่อว่าจักรวาลมีพลังงาน เชื่อมโยงกับพลังจิตและความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์ ทำให้สิ่งที่เราหมกมุ่นอยู่ในความคิดตลอดเวลาเกิดขึ้นจริง ๆ
เช่น สมมติเราจอดรถทิ้งไว้ แล้วในใจกลัวว่าจะมีโจรมาทุบกระจกรถแตก จักรวาลจะจดจำความคิดนี้ไว้ และเมื่อเรากลับมา กระจกรถก็อาจโดนทุบแตกจริง ๆ หรืออีกนัยหนึ่งคล้าย ๆ กับความคิดเวลาที่เรารู้สึกสังหรณ์ใจนั่นเอง ทฤษฎีนี้จึงมีเรื่องราวความเชื่อเหนือธรรมชาติและพลังจิตเข้ามาเกี่ยวข้อง แม้จะไม่มีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์
แต่การนำเรื่องจักรวาลมาใช้ควบคู่กัน ทำให้บางครั้งกฎนี้ถูกเรียกว่า "กฎจักรวาล" หรือ "กฎแรงดึงดูดของจักรวาล" นั่นคือ จักรวาลจะมีพลังและแรงดึงดูดสิ่งที่คิดให้เกิดขึ้นจริงกับเรา คราวนี้จะเริ่มเห็นชัดขึ้นแล้วว่า จริง ๆ แล้วเรื่องของกฎจักรวาลอาจจะเป็นเพียงกุศโลบายหนึ่งที่ช่วยให้คนเรามีเป้าหมายที่แน่วแน่ เกิดกระบวนการคิดที่ตอกย้ำจิตสำนึกให้ทำในสิ่งที่มุ่งหวังไว้ให้สำเร็จ ขณะที่ในทางจิตวิทยามองว่ากฎแรงดึงดูด เป็นเรื่องของ Selective Attention (การเลือกสิ่งที่ตนสนใจ) ที่จับคู่กับการอธิบายปรากฏการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นด้วยอคติของเราเอง หรือการที่เราเลือกที่จะสนใจ ใส่ใจ รับรู้ และตอบสนองเฉพาะในสิ่งที่เราต้องการเท่านั้น
(图源 IG:davikah) 为什么“吸引力法则”如此受欢迎? แนวคิดเรื่องกฎแรงดึงดูด ปรากฏครั้งแรกในหนังสือของ Helena Blavatsky นักปรัชญาและนักเขียนชาวรัสเซีย เมื่อปี 1877 ซึ่งได้อธิบายถึงพลังจิตของมนุษย์ที่สามารถดึงดูดสิ่งต่างๆ ได้ หลังจากนั้นถูกนำไปพัฒนาเป็นแนวคิดและงานเขียนต่าง ๆ อีกมากมาย จนกระทั่งปี 2006
มีการตีพิมพ์หนังสือที่ชื่อว่า "The Secret" ของ Rhonda Byrne นักเขียนชาวออสเตรเลีย มีเนื้อหาเกี่ยวกับกฎแรงดึงดูด ที่สร้างความมหัศจรรย์ให้ชีวิตในด้านต่าง ๆ เมื่อนำมาปรับใช้กับวิธีคิดอย่างสม่ำเสมอ กลายเป็นหนังสือขายดีที่จำหน่ายได้ถึง 19 ล้านเล่ม และได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆ ถึง 40 ภาษา รวมทั้งภาษาไทย จึงกล่าวได้ว่าหนังสือ The Secret มีอิทธิพลอย่างมากที่ทำให้แนวคิดนี้แพร่หลายมาจนถึงปัจจุบัน
在生活中如何运用“吸引力法则”? หนังสือ The Secret ได้อธิบายว่า กระบวนการสร้างสรรค์ (Creative Process)
เพื่อให้สอดคล้องกับกฎแรงดึงดูดของจักรวาล ประกอบด้วย 3 ขั้นตอนต่อไปนี้ 1. ขอ (Ask) : การตั้งจิตให้แน่วแน่เพื่อให้พลังจักรวาลรับรู้สิ่งที่ต้องการ หากคิดดีจักรวาลจะดึงดูดสิ่งดี ๆ มายังตัวคุณ อิทธิพลของทั้ง 3 ขั้นตอน ขอ-เชื่อ-รับ มาจากพื้นฐานที่เชื่อในพลังจิตของมนุษย์ ว่ามีพลังในการดึงดูดสิ่งต่าง ๆ ที่คิดไว้ให้เกิดขึ้นจริงได้ แม้จะดูเหมือนเป็นเรื่องของการตั้งใจจำ และทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างแน่วแน่ ทว่าในชีวิตจริงนั้นเป็นเรื่องยากที่เราจะคิดแต่เรื่องดี ๆ ตลอดเวลา เพราะมนุษย์มักมีความคิดแง่บวกและลบ โดยเฉพาะ Automatic
Thought ที่เราไม่สามารถควบคุมได้ ไม่ว่าจะเป็นการเผลอโทษตัวเอง ด่าคนอื่น หรือตัดสินผู้อื่นตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น วิธีการคือต้องปรับเปลี่ยนไปใช้วิธีคิดเชิงบวก เมื่อทำเช่นนี้บ่อย ๆ สมองเราจะเริ่มสร้างกลไกการคิดแบบ Positive Thinking ต่อไปเมื่อเจอปัญหาอะไร เราจะมีมุมมองบวกและแก้ปัญหาด้วยวิธีที่มีอิทธิพลด้านบวกมากขึ้น
(图源 IG:bbillkin) ตัวอย่าง : หากคุณอยากมีรถสปอร์ตสักคัน แต่ในใจลึก ๆ กลับรู้สึกว่า
เราคงไม่มีทางซื้อรถราคาแพงแบบนั้นได้หรอก จะไปเทียบกับคนฐานะร่ำรวยอยู่แล้วได้อย่างไร การคิดเช่นนี้จักรวาลก็จะดึงดูดแต่สิ่งที่ไม่ดีมาให้คุณอยู่เสมอ แต่หากคุณคิดว่า อยากจะมีรถสปอร์ตสักคัน เชื่ออย่างแน่วแน่ว่าสักวันจะต้องซื้อรถสปอร์ตได้ กลไกทางจิตของคุณจะทำให้คุณมองหาแนวทางที่จะทำให้สิ่งนั้นเป็นจริง พลังจักรวาลจะดึงดูดผู้คน โอกาส งาน และเงิน ที่จะทำให้คุณได้สิ่งที่ต้องการ สิ่งที่ยากที่สุดที่ทำให้หลายคนไม่ประสบความสำเร็จกับการนำกฎแรงดึงดูดมาใช้ ก็คือ ลึก ๆ แล้ว พวกเขาไม่ได้เชื่อในสิ่งที่คิดจริง ๆ เช่น คิดว่าต้องประสบความสำเร็จ แต่ลึก ๆ ในจิตใจแล้วกลับแย้งว่าตัวเองไม่มีทางประสบความสำเร็จได้หรอก เป็นต้น ทั้งนี้ เหตุผลหนึ่งที่ทำให้เราไม่ได้สิ่งที่ต้องการ
ก็เพราะเรามัวแต่ใช้เวลาส่วนใหญ่คิดถึงแต่สิ่งที่เราไม่ต้องการ มากกว่าสิ่งที่ต้องการจริง ๆ ซึ่งหากต้องการนำกฎแห่งแรงดึงดูดมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ก็สามารถเริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการปรับเปลี่ยนแนวคิด-ปรับเปลี่ยนความรู้สึก-คิดบวกเข้าไว้-พยายามทำสิ่งที่คิดให้สำเร็จ เมื่อนั้นชีวิตคุณจะดึงดูดแต่สิ่งดีๆ เข้ามาแน่นอน
(图源 IG:tontawan) 工作和金钱上的吸引力法则 เชื่อว่ามีหลายคนที่มักประเมินความสามารถของตัวเองต่ำเกินจริง และไม่เชื่อในประสิทธิภาพที่มี เมื่อคิดเช่นนี้เป็นประจำ คุณก็จะมีความคิดที่จำกัดความสามารถของตัวเอง คิดว่าตัวเองไม่เก่ง ไม่กล้าทำงานใหม่ ๆ ไม่กล้าลงทุนในธุรกิจใหม่ ๆ
ไม่กล้าเสี่ยงแสวงหาความร่ำรวย กลไกความคิดลักษณะนี้จะทำให้คุณปิดกั้นโอกาสดี ๆ ในชีวิตโดยไม่รู้ตัว เพราะฉะนั้นต้องเริ่มตั้งเป้าหมาย ปรับเปลี่ยนวิธีคิด เมื่อนั้นพฤติกรรมของคุณก็จะเริ่มเปลี่ยนไป ชีวิตคุณจะดึงดูดสิ่งที่เป็นพลังงานบวก และเมื่อนั้นกฎแห่งแรงดึงดูดก็จะเริ่มทำงาน
(图源 IG:bie_kpn) 关于爱情的吸引力法则 "Like Attracts Like" คนที่เหมือน ๆ กันก็มักจะดึงดูดซึ่งกันและกัน ข้อความนี้น่าจะนำมาปรับใช้กับกฎแรงดึงดูดได้เห็นภาพมากที่สุด เพราะความคิดและทัศนคติที่คุณมี ถ่ายทอดออกมาผ่านคำพูด การกระทำ และวิธีการใช้ชีวิต มักจะดึงดูดคนที่มีลักษณะใกล้เคียงกับตัวคุณเข้ามาในชีวิต สำหรับกฎแรงดึงดูดในเรื่องของความรัก สิ่งสำคัญที่สุดคือ
คุณต้องเรียนรู้ที่จะรักตัวเองและเห็นคุณค่าในตัวเองอย่างแท้จริงเสียก่อน แล้วจึงมอบสิ่งดี ๆ เหล่านี้ไปยังผู้คนรอบข้าง เมื่อนั้นพลังของจักรวาลก็จะมอบความรักและผู้คนแบบเดียวกันนี้กลับมาให้คุณ
(图源 IG:urassayas) 虽然吸引力法则的步骤听起来会有一点点复杂,还涉及宇宙能量的问题,但是这个理论如果要概括地总结,那就是:好好想,好好做,生活自然会通过工作的形式、金钱的形式,亦或爱情的形式将好的东西带给你。请记住,你在生活中遇到的一切,都取决于你所想的一切。 声明:本文由沪江泰语编译整理,素材来自thairath,转载请注明出处。如有不妥,敬请指正。 |